27 ตุลาคม 2559

เพลงในความทรงจำ ถึงในหลวงรัชกาลที่ ๙


ข่าวในหลวงรัชกาลที่ ๙ สวรรคตนับเป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่จริงๆ

ตั้งแต่เกิดมาในชีวิตก็ได้พบเจอแต่ภาพการทรงงานด้านต่างๆ ของในหลวงพระองค์นี้อยู่เสมอ เพื่อให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านสังคม เศรษฐกิจ การเมือง การศึกษา การคมนาคม การเกษตร การชลประทาน และอื่นๆ อีกสารพัดที่คงจะบรรยายได้ไม่หมดด้วยเวลาอันสั้น เราได้เห็นในภาพข่าวตั้งแต่หลายสิบปีมา ก็จะมีกล้อง แผนที่ และข้าราชการห้อมล้อมอยู่เต็มไปหมด เพื่อช่วยกันแก้ปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านนานาสารพัด แล้วเราเหมือนจะมีความเชื่อกลายๆ ว่าในหลวงจะอยู่กับพวกเราคนไทยตลอดไปตราบนานเท่านาน

วันที่เราได้รับทราบข่าวจากแถลงการณ์ของสำนักพระราชวังตอนค่ำวันที่ 13 ตุลาคม เชื่อว่าทุกคนต้องประสบกับความรู้สึกเดียวกัน ณ ตอนนั้น แล้วน้ำตาพลันก็ไหลรินมาเปื้อนตาโดยที่ห้ามไว้ไม่อยู่ ข้อความในแถลงการณ์เพียงสั้นๆ ที่ถูกส่งออกมาผ่านทีวีและวิทยุ แต่มันทรงพลังเหลือเกินในการสร้างความรู้สึกเหมือนมีอะไรกระแทกเข้ามาในหัวใจของคนไทย เกิดเป็นความใจหาย เสียใจ โศกเศร้ากับการจากไปของในหลวงที่รัก เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยมาช้านานพระองค์นี้ เพราะเราต่างถวายพระพรให้ทรงพระเจริญทุกๆ ปี ทำกิจกรรมหลายต่อหลายงานเพื่อเฉลิมพระเกียรติแด่พระองค์ท่าน ภาพของพระราชกรณียกิจของในหลวงตั้งแต่จำความได้ถูกเรียกออกมาจากทุกส่วนของความทรงจำในสมอง แต่นับจากนี้ ไม่มีอีกแล้ว ท่านจากพวกเรา กลับสู่สวรรค์ทิพย์วิมานที่ท่านจะได้สถิต ณ ที่นั่นตราบจนนิรันดร์ เหลือแต่โครงการในพระราชดำริ ที่จะยังประโยชน์แก่พวกเราสืบสานต่อไปในวันข้างหน้า

มีอยู่เพลงหนึ่งที่โดยส่วนตัวแล้วราวกับก้องอยู่ในหัวตลอดมา นับตั้งแต่วันสวรรคต แม้เพลงที่เกี่ยวกับในหลวงถูกเปิดอย่างมากมาย ทั้งเพลงพระราชนิพนธ์ และเพลงที่แต่งเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระองค์ท่าน ในหลายๆ เวอร์ชั่น หลายๆ โอกาส แต่กลับมีอยู่เพลงเดียวที่แทนความรู้สึกที่ผ่านมาได้ไม่น้อย ส่วนหนึ่งเพราะมันเป็นเพลงสุดท้ายที่เราได้ยินภายใต้รัชสมัยของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ก่อนที่เราจะได้ทราบข่าววิปโยคนั้นไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง ถึงตอนนี้ก็ยังคงก้องอยู่ และไม่สำคัญว่าจะดังก้องไปอีกนานแค่ไหน เพราะความรักความศรัทธาที่เรามีแต่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ จะคงอยู่ไม่เสื่อมคลาย ตราบจนเราจะจากไปโลกนี้ไปนั่นแหละ ท่านเป็นถึงกษัตริย์อันสูงส่งแสนสบายภายในพระราชวัง แต่ยังทรงลงมาคลุกดินลุยน้ำไปยังที่ต่างๆ ทุกภาคทั้งเหนือใต้ออกตก ไม่ใช่แค่เพื่อเอาปลาไปให้ แต่ยังขุดสระหาน้ำใส่บ่อแล้วสอนให้รู้จักการจับปลาอีกด้วย

เพลงนั้นก็คือเพลงที่อัสนีย์-วสันต์ร้องไว้ เมื่อครั้งเฉลิมพระเกียรติพระชนมายุ 84 พรรษา ปี 2554 "ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป" บางครั้งที่ได้ยินก็ยังแอบมีน้ำตาซึมได้เหมือนกัน เพราะภาพจำในวันแสนวิปโยคนั้นก็ย้อนขึ้นมาได้ทุกที เพราะเนื้อเพลงมันแทนความรู้สึกได้ตรงที่สุด



คนไทยที่แท้ รู้ดีในหัวใจ
เรื่องราวอันมากมาย ที่ทรงได้ทำ
เหนื่อยแบกภาระ ผู้คนบนแผ่นดิน
ได้มีและได้กิน มีความหวังงดงาม

บังคมกราบกราน ปฏิญาณตนจากใจ
กี่ชาติที่เกิดไป จักขอตาม

ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
มอบชีวิต ด้วยกายและใจ
จะต้องเหนื่อยล้า โรยแรงเท่าไร
จะขอจงรักภักดี

ราชาแห่งไหน ที่มีในนิทาน
ที่เด็กเด็กเคยอ่าน อยู่สุขสันต์สวยงาม
ราชาแห่งนี้ ท่านทรงงานและงาน
หลายสิบปีพ้นผ่าน ยังทรงสร้างทำ

บังคมกราบกราน ปฏิญาณตนจากใจ
กี่ชาติที่เกิดไป จักขอตาม

ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
มอบชีวิต ด้วยกายและใจ
จะต้องเหนื่อยล้า โรยแรงเท่าไร
จะขอจงรักภักดี ทุกชาติไป


ขอทรงยิ่งยืนยงชั่วฟ้า พลานามัยเกษมสำราญ
ขอทรงยิ่งยืนยงชั่วฟ้า ยิ่งยืนยิ่งยงชั่วกาล

ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
มอบชีวิต ด้วยกายและใจ
จะต้องเหนื่อยล้า โรยแรงเท่าไร
จะขอจงรักภักดี

ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
มอบชีวิต ด้วยกายและใจ
จะต้องเหนื่อยล้า โรยแรงเท่าไร
จะขอจงรักภักดี ทุกชาติไป


ธ สถิตในใจคนไทยตราบจนนิรันดร์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น